ศิษย์เก่าสัมพันธ์ กองกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล

บอกต่อนักศึกษามหิดล คะแนน TOEFL และ IELTS สำคัญแค่ไหน

อาชีพมาแรง

นักศึกษาที่อยากจะรับทุนการศึกษาแลกเปลี่ยนนักศึกษาหรือทุนการศึกษาต่างประเทศ จำเป็นจะต้องรู้จักกับคะแนน TOEFL และ IELTS เอาไว้ให้ดี เพราะคะแนนทั้งสองประเภทนี้ถือว่ามีความสำคัญต่อการศึกษาต่อในต่างประเทศเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นการวัดระดับความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษของคุณนั่นเอง และวันนี้เราจะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับคะแนนทั้ง 2 รูปแบบนี้ให้มากยิ่งขึ้น ว่าจะมีสิ่งใดที่ควรรู้และน่าสนใจกันบ้าง

คะแนน TOEFL และ IELTS คืออะไร สำคัญอย่างไร

การศึกษาต่อหรือการทำงานต่อในต่างประเทศ แน่นอนว่าจะต้องใช้ภาษาที่เป็นแบบฉบับสากล ซึ่งนั่นก็คือ ภาษาอังกฤษนั่นเอง โดยการสื่อสารและการมีความรู้ความเข้าใจภาษาอังกฤษจะทำให้คุณมีสกิลที่ดีที่จะส่งผลต่อการทำงานในอนาคตที่มีประสิทธิภาพได้อีกด้วย ซึ่งสิ่งที่จะลืมไปไม่ได้เลยเมื่อมีความประสงค์จะไปศึกษาหรือทำงานต่อในต่างประเทศก็คือ คะแนน TOEFL และ คะแนน IELTS

TOEFL (Test of English as a Foreign Language) คือ การสอบวัดระดับความสามารถภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน โดยการสอบนี้เป็นการสอบที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีความประสงค์ในการไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ หรือทำงานในต่างประเทศ โดยคะแนน TOEFL จะต้องอยู่ที่ 79/120 จึงจะผ่านการสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษ และเมื่อสอบเสร็จสิ้นแล้ว จะสามารถเก็บคะแนนเหล่านี้เอาไว้ใช้ได้ 2 ปี หลังจากนั้นจะต้องทำการสอบใหม่ มีการวัดสกิลอยู่ 4 ระดับ ได้แก่

  • Listening (30 นาที)
  • Reading (30 นาที)
  • Writing (30 นาที)
  • Speaking (30 นาที)

สามารถตรวจสอบศูนย์สอบ TOEFL ได้ผ่านทาง https://v2.ereg.ets.org/ereg/public/workflowmanager/schlWorkflow?_p=TEL

IELTS (International English Language Testing System) คือ การสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษ ว่ามีความรู้ความเข้าใจเพียงพอสำหรับการศึกษาหรือไม่ โดยการสอบ IELTS นี้จะมีการวัดสกิลของเราอยู่ 4 ระดับ ได้แก่

  • Listening (30 นาที)
  • Reading (60 นาที)
  • Writing (60 นาที)
  • Speaking (ประมาณ 11-15 นาที)

นอกจากนี้รูปแบบของการสอบ IELTS ยังสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ เพื่อการศึกษาต่อ (Academic Modules) และ เพื่อการฝึกอบรม (General Training Modules) มีทั้งการสอบแบบคอมพิวเตอร์และแบบกระดาษ รวมเวลาสอบทั้งสิ้น 2 ชั่วโมง 44 นาที และอีก 10 นาทีที่เป็น transfer time

นับว่าคะแนนทั้งสองประเภทนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก และในมหาวิทยาลัยมหิดลเราก็มีทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนที่สนใจอยากเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน รวมไปถึงทุนการศึกษาต่อในต่างประเทศอีกเช่นเดียวกัน ซึ่งหากใครที่มีความสนใจหรือมีความต้องการศึกษาต่อในลักษณะเช่นนี้ก็จำเป็นที่จะต้องทำการสอบ TOEFL และ IELTS เช่นเดียวกัน ซึ่งการผ่านเกณฑ์ของแต่ละทุนนั้นก็จะมีความแตกต่างกันออกไป จึงควรทำคะแนนทั้ง 2 นี้ ออกมาให้ได้ดีที่สุดเพื่อที่จะได้รับการพิจรณาในการรับทุนการศึกษานั่นเอง

ภาษาอังกฤษนับว่ามีความสำคัญในปัจจุบันเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นภาษาสากลของโลกที่มีการใช้งานมาจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งในทุก ๆ ประเทศก็จำเป็นที่จะต้องใช้ภาษาอังกฤษร่วมด้วย ทำให้มีการสอบวัดระดับความสามารถทางภาษอังกฤษก่อนที่จะไปทำการเรียนหรือการทำงานก่อนเสมอนั่นเอง ดังนั้นหากใครที่มีความสนใจอยากไปศึกษาต่อในต่างประเทศหรืออยากไปหางานทำในต่างประเทศ การสอบทั้ง 2 รูปแบบนี้เอาไว้ ก็จะเป็นประตูที่ทำให้คุณสามารถก้าวเข้าสู่สิ่งที่ต้องการที่ง่ายมากยิ่งขึ้น

Facebook
Twitter
Email

สมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยมหิดล ฯ จัดบรรยายพิเศษเรื่อง Why University Needs Branding

โครงการ Mahidol University Alumni Ambassador รุ่นที่ 2

กิจกรรม MU Craft Workshop สร้างโมเดล 3 มิติ ให้เป็น ‘มหิดลสิทธาคาร’