ย้อนกลับไปหน้า Alumni Recognition
พยาบาลต้นแบบเพื่อการควบคุมยาสูบระดับประเทศ :
รองศาสตราจารย์ ดร.ผ่องศรี เป็นนักวิชาการพยาบาลผู้มีบทบาทสำคัญด้านการควบคุมยาสูบของประเทศไทย ท่านสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี โท และเอกจากมหาวิทยาลัยมหิดล และเคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าภาควิชาการพยาบาลศัลยศาสตร์ ด้วยความเชี่ยวชาญด้านการบำบัดรักษาและป้องกันปัญหายาเสพติด ท่านได้อุทิศตนในการพัฒนาความรู้และกิจกรรมควบคุมยาสูบอย่างต่อเนื่อง ผลงานของท่านมีส่วนสำคัญในการลดอัตราการสูบบุหรี่ ป้องกันการเริ่มสูบในเยาวชน และสนับสนุนการเลิกสูบอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาควิชาการ หน่วยงานรัฐ และภาคประชาสังคม เพื่อขับเคลื่อนมาตรการระดับประเทศ ด้วยคุณูปการโดดเด่น ท่านได้รับรางวัลสำคัญมากมาย อาทิเช่น รางวัลผู้ทำคุณประโยชน์ด้านการควบคุมยาสูบ จากกรมควบคุมโรค รางวัลพยาบาลดีเด่นด้านการควบคุมยาสูบ จากสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทย รางวัลธัญญารักษ์อวอร์ดด้านวิชาการบำบัดรักษาผู้เสพติด และรางวัลนักวิจัยเพื่อการควบคุมยาสูบยอดเยี่ยม พ.ศ. 2568 ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงบทบาทและความสำเร็จของท่านในการสร้างสังคมไทยปลอดบุหรี่และส่งเสริมสุขภาพสาธารณะอย่างยั่งยืน
“หลังสำเร็จการศึกษา ได้รับคัดเลือกให้เข้าปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งอาจารย์ที่ภาควิชาการพยาบาลศัลยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ และพยายามศึกษาหาความรู้ และประสบการณ์ต่อยอดพร้อมเป็นทรัพยากรบุคคลในการพัฒนาประเทศชาติในอนาคต และคนไทยทุกเพศ ทุกวัย ทุกพื้นที่ มีสุขภาพแข็งแรง” ความภาคภูมิใจต่อมหาวิทยาลัยมหิดลจาก รศ.ดร.ผ่องศรี ศรีมรกต
#MahidolUniversityNotableAlumni
อ่านเรื่องราว
นวัตกรอาหารสุขภาพและสื่อการเรียนรู้โภชนาการ :
ผศ.ดร.ฉัตรภามีผลงานที่ได้รับการยอมรับในระดับชาติและนานาชาติ ด้วยการนำความรู้ด้านโภชนาการมาประยุกต์ใช้อย่างสร้างสรรค์ เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพจากวัตถุดิบธรรมชาติที่สนับสนุนการมีสุขภาพดีในทุกกลุ่มวัย การพัฒนาสื่อการเรียนรู้ด้านอาหารและโภชนาการสำหรับกลุ่มเฉพาะ เช่น ช่วยให้กลุ่มผู้สูงอายุสามารถเข้าถึงความรู้ด้านโภชนาการได้สะดวกมากยิ่งขึ้น สร้างความเข้าใจเรื่องของอาหารของกลุ่มผู้ที่เป็นโรคมะเร็ง การจัดอาหารสำหรับกลุ่มผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน หลายผลงานวิจัยได้รับการสนับสนุนจากองค์กรชั้นนำ เช่น สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลจากการแข่งขันนวัตกรรมอาหาร เช่น Food Innopolis Innovation Contest 2020/21 ซึ่งสะท้อนถึงความเป็นศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยมหิดลที่มุ่งมั่นในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่เพื่อประโยชน์แก่สังคม
“ในฐานะศิษย์เก่าที่ได้รับโอกาสกลับมาเป็นอาจารย์และทำงานที่มหาวิทยาลัยมหิดล ถือเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งในชีวิต ข้าพเจ้าโชคดีที่ได้เรียนรู้และเติบโตจากสถาบันแห่งนี้ ซึ่งไม่เพียงแต่ให้ความรู้เชิงวิชาการ แต่ยังหล่อหลอมให้เข้าใจถึงความสำคัญของการใช้ชีวิตด้วยจริยธรรมและคุณธรรม ด้วยความสำนึกในบุญคุณของสถาบัน ข้าพเจ้าจึงมุ่งมั่นตอบแทน โดยการส่งต่อองค์ความรู้ คำแนะนำ และแนวทางชีวิตแก่นักศึกษารุ่นหลัง เพื่อให้พวกเขาเติบโตเป็นบุคคลที่พร้อมทั้งความรู้และคุณธรรม” ความภาคภูมิใจต่อมหาวิทยาลัยมหิดลจาก ผศ.ดร.ฉัตรภา หัตถโกศล
อ่านเรื่องราว
ผู้ริเริ่ม Mobile Stroke Unit - Stroke One Stop :
รศ.นพ.ยงชัยมีบทบาทสำคัญในการแก้ปัญหาการขาดแคลนแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้วยการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) และการเข้าถึงการรักษาในพื้นที่ห่างไกลด้วย Mobile Stroke Unit - Stroke One Stop (MSU-SOS) ประกอบด้วยรถที่ติดตั้งเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง ยาที่จำเป็น ร่วมกับการใช้ระบบปรึกษาทางไกลผ่านสัญญาณอินเตอร์เน็ต 4G/5G สื่อสารกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ตัดสินใจให้ยาสลายลิ่มเลือดบนรถ และส่งต่อเพื่อเปิดหลอดเลือดสมองโดยใช้สายสวนได้ทันที เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม 2561 ครอบคลุมพื้นที่ในจุดห่างไกลในภาคต่างๆ ปัจจุบันได้ให้บริการผู้ป่วยไปแล้วกว่า 2,700 ราย พบว่าสามารถลดระยะเวลาที่ใช้ในการวินิจฉัย เพิ่มโอกาสการได้รับยาสลายลิ่มเลือด ลดอัตราความพิการ ลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการรักษา ต่อยอดสู่โครงการรถรักษาอัมพาตเคลื่อนที่เฉลิมพระเกียรติเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการรักษาโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลัน ในพื้นที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช 21 แห่งทั่วประเทศ เพื่อยกระดับการรักษาโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลันให้ประเทศไทย สู่ความเป็นผู้นำทางการแพทย์ ขยายตลาดนวัตกรรมการแพทย์ เช่น การผลิตและให้บริการ Mobile Stroke Unit ในระดับภูมิภาคและระดับโลก
#MahidolUniversityNotableAlumni
อ่านเรื่องราว
คณบดีของสถาบันการแพทย์ของแผ่นดิน :
ศาสตราจารย์ นายแพทย์อภิชาตดำรงตำแหน่งคณบดี คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ.2565 เคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าภาควิชาศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิคส์และกายภาพบำบัด (พ.ศ.2562-2565) รองคณบดีฝ่ายบริหาร 2 วาระ โดยในครั้งแรกดำรงตำแหน่งในสมัยที่ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ธีรวัฒน์ กุลทนันทน์ เป็นคณบดี (พ.ศ.2550-2554) และในสมัยที่ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์ประสิทธิ์ วัฒนาภา ดำรงตำแหน่งเป็นคณบดี (พ.ศ.2558-2562) ท่านมีความสนใจด้านการบริหารงานและองค์กร โดยเฉพาะเรื่องการนำองค์กรที่มีหลักธรรมาภิบาล การบริหารจัดการความเสี่ยง และการจัดการธุรกิจให้สามารถดำเนินการอย่างต่อเนื่องเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด สนับสนุนส่งเสริมการสร้างความร่วมมือของส่วนงานของมหาวิทยาลัยมหิดล หน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนกับคณะฯ ให้ความสำคัญกับการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะสามารถนำความรู้และประสพการณ์ใหม่ๆ มาใช้บริหารงานและปรับเปลี่ยนคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลให้มีประสิทธิภาพ สร้างผลสัมฤทธิ์แก่คณะฯ ทำให้คณะฯ มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและเกิดความยั่งยืน ทำหน้าที่รับผิดชอบคณะแพทย์ที่มีอายุเก่าแก่และมีขนาดใหญ่มากที่สุดของประเทศและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) ในปัจจุบันมีโรงพยาบาลในสังกัด จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ และศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก มีบุคลากรในสังกัดกว่า 22,000 คน ทุกๆ ปีจะมีคนไข้มารับบริการทางการแพทย์กว่า 4.7 ล้านครั้ง คณะฯ มีนักศึกษาทั้งในหลักสูตรปริญญาตรี โท เอก รวมถึงแพทย์ประจำบ้าน แพทย์ประจำบ้านต่อยอด และแพทย์เฟลโล่ว์ หากรวมทุกหลักสูตรของคณะฯ จะมีนักศึกษากว่า 4,500 คน นอกจากนั้นคณะฯ มีหน้าที่ในการศึกษาวิจัยเพื่อสร้างองค์ความรู้เพื่อนำไปพัฒนาปรับปรุงการดูแลรักษาผู้ป่วยในโรคต่างๆ สร้างผลงานการวิจัยที่มีการตีพิมพ์ในวารสารทางวิชาการที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติจำนวนมากที่สุดของมหาวิทยาลัยมหิดลและสามารถชี้นำสังคมให้มีผลการรักษาและคุณภาพชีวิตของประชาชนที่ดียิ่งขึ้น ภายใต้วิสัยทัศน์ของคณะฯ คือ “เป็นสถาบันการแพทย์ของแผ่นดิน ที่สร้างองค์ความรู้และการบริการที่เป็นประโยชน์สุขภาพของโลก” การที่จะทำให้วิสัยทัศน์บรรลุถึงเป้าหมายและเกิดความยั่งยืนได้จำเป็นต้องมีระบบการบริหารองค์กรที่มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลตามแผนกลยุทธ์ที่ตั้งไว้
อ่านเรื่องราว
ผู้นำการวิจัยโรคเขตร้อนเพื่อสุขภาพโลกอย่างยั่งยืน :
ศ.เกียรติคุณ ดร.พญ.ศศิธรได้ปฏิบัติหน้าที่แห่งวิชาชีพด้วยคุณธรรมและจริยธรรมอย่างต่อเนื่องมานานกว่าสามทศวรรษ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งราชบัณฑิตและหัวหน้าหน่วยวิจัยคลินิกบำบัด คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล ท่านได้ทำงานด้านบริการวิชาการด้วยมนุษยสัมพันธ์ที่ดีอย่างต่อเนื่องโดยเป็นอาจารย์พี่เลี้ยงเพื่อสร้างนักวิจัยรุ่นใหม่ด้านโรคเขตร้อนและวิทยาศาสตร์การแพทย์ ผลงานทางวิชาชีพที่โดดเด่นและการทุ่มเทเพื่องานบริการวิชาการแก่ส่วนรวมทำให้ท่านได้รับเกียรติคุณและการยกย่องทั้งในและต่างประเทศ ได้รับพระราชทานเหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา สาขาแพทยศาสตร์ ประจำปี พ.ศ. 2562 ท่านมีผลงานวิจัยระดับโลกที่โดดเด่นด้านการรักษาควบคุมและกำจัดโรคมาลาเรียและโรค COVID-19 การนำองค์ความรู้จากวงการแพทย์ไปประยุกต์ใช้จนเป็นที่ประจักษ์และได้รับการจัดอันดับเป็นนักวิทยาศาสตร์ 2% แรกของโลกและนักวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ดีที่สุดประจำปี พ.ศ. 2565 ลำดับที่ 16,453 ของโลกและลำดับที่ 9 ของประเทศไทย จึงนับเป็นต้นแบบศิษย์เก่าที่ประสบความสำเร็จในการทำคุณประโยชน์ต่อส่วนรวมและประเทศชาติ เป็นเกียรติยศและชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยมหิดล
“มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นมหาวิทยาลัยที่มีวัฒนธรรมที่ยั่งยืนงดงามและมีความเป็นเลิศด้านวิชาการในระดับสากล จวบจนปัจจุบันมหิดลยังคงรักษาเกียรติยศชื่อเสียงและได้รับการยอมรับทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ ข้าพเจ้ามีความภาคภูมิใจอย่างสูงสุดที่ได้รับการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมหิดลและได้รับราชการเฉพาะที่คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล เกียรติยศชื่อเสียงและความสำเร็จของข้าพเจ้าตลอดชีวิตการทำงาน กว่า 39 ปี ล้วนเป็นเพราะการหล่อหลอมจากครูบาอาจารย์และการได้รับโอกาสจากมหาวิทยาลัยมหิดล” ความภาคภูมิใจต่อมหาวิทยาลัยมหิดลจาก ศ.เกียรติคุณ ดร.พญ.ศศิธร ผู้กฤตยาคามี
อ่านเรื่องราว
ผู้นำวิชาการขับเคลื่อนสมุนไพรไทยสู่หลักวิทยาศาสตร์ :
รศ.ภญ.พร้อมจิตเป็นผู้มีผลงานอันโดดเด่นและเป็นที่ยอมรับในวงการสมุนไพรไทย ท่านเป็นกำลังสำคัญของประเทศในการพัฒนางานด้านสมุนไพรให้มีความก้าวหน้าในหลักวิทยาศาสตร์ อนุรักษ์และต่อยอดองค์ความรู้งานวิจัยและภูมิปัญญาไทยให้เห็นเป็นผลรูปธรรม ท่านเป็นผู้มีส่วนสำคัญในการผลักดันและสนับสนุนการทำงานเชิงบูรณาการข้ามศาสตร์และข้ามมหาวิทยาลัย ทำให้เกิดผลสำเร็จในการสร้างนวัตกรรมสมุนไพร ทำให้การศึกษาวิจัยพืชสมุนไพรไทยมีมาตรฐานมีทิศทางที่ชัดเจนสามารถตอบโจทย์ความต้องการของประเทศและสังคม นอกจากนั้นยังเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการยกระดับและวางรากฐานการบริหารจัดการสวนสมุนไพรสิรีรุกชาติไปเป็นอุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ เพื่อพัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้พืชสมุนไพรแบบครบวงจร เพื่อถ่ายทอดความรู้ให้ประชาชนได้ศึกษาและนำกลับไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เพิ่มศักยภาพในการพึ่งพาตัวเองด้านสุขภาพอนามัยให้กับสังคมไทย
“ช่วงระยะเวลา 54 ปี ซึ่งใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ นับตั้งแต่สอบคัดเลือกเข้าศึกษาในคณะเภสัชศาสตร์สำเร็จ คาดหวังว่าที่นี่จะเป็นพื้นที่ให้สามารถพัฒนาตนเองและสร้างชีวิตที่ดีในอนาคต เข้าร่วมกิจกรรมทั้งในและนอกหลักสูตรจนจบจนบรรจุเป็นอาจารย์ที่คณะฯ เป็นช่วงที่มีความภาคภูมิใจและมีความกระตือรือร้นที่่จะทำงานวิชาชีพที่ชอบ ปรับปรุงวิธีการเรียนการสอนให้เหมาะสมมากขึ้นตามความคิด ที่นี่เปิดโอกาสให้ได้เรียนรู้ สร้างประสบการณ์ใหม่ และประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีและสภาพสังคมไทยที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โจทย์วิชาชีพถูกศึกษา วิเคราะห์และสังเคราะห์ ทำให้มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น และใช้เวลาที่เหลือสร้างสรรค์งานต่าง ๆ ให้วิชาชีพและสังคมตามศักยภาพของตัวเอง อาจจะไม่โดดเด่นมาก แต่เป็นความภูมิใจของตัวเองที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสถาบันที่นับเป็นบ้านอีกแห่งหนึ่งของชีวิต” ความภาคภูมิใจต่อมหาวิทยาลัยมหิดลจาก รศ.ภญ.พร้อมจิต ศรลัมพ์
#MahidolUniversityNotableAlumni
อ่านเรื่องราว
นักกายภาพบำบัดผู้ให้ด้วยหัวใจเพื่อสังคมและวิชาชีพ :
กภ.พงศ์พันธุ์เป็นผู้ประพฤติปฏิบัติและครองตนอยู่ในคุณธรรมจริยธรรมมาโดยตลอด ท่านเคยปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่งที่ปรึกษารองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 คณะอนุกรรมาธิการการท่องเที่ยวและกีฬา คณะอนุกรรมาธิการผู้ใช้ลำแสงซินโครตรอน และเป็นกรรมการผู้จัดการในองค์กรภาคเอกชนหลายแห่ง อีกทั้งมีจิตอาสาช่วยเหลือสังคมและช่วยเหลือวิชาชีพกายภาพบำบัด เป็นตัวอย่างที่ดีในการเป็นผู้ให้ เช่น การมอบทุนการศึกษา ให้รางวัล และคำปรึกษาแก่คณาจารย์และน้อง ๆ นักศึกษาคณะกายภาพบำบัด ด้วยจิตเมตตา อีกทั้งท่านยังเป็นอดีตนายกสมาคมศิษย์เก่าคณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดลที่มีความเชี่ยวชาญในงานที่รับผิดชอบ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีความมุ่งมั่นพัฒนางานอย่างต่อเนื่องในการผลักดันให้ทางสมาคมฯ ดำเนินงานได้สมบูรณ์แบบอย่างเป็นทางการ ผ่านการทำโครงการสนับสนุนสมาคมฯ ที่ส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรมนักศึกษาและศิษย์เก่าทุกรุ่น พลิกโฉมสมาคมฯ ให้เป็นที่รู้จักของศิษย์เก่ารุ่นต่าง ๆ มากขึ้น อีกทั้งยังสละเวลาเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของทางคณะฯ อย่างสม่ำเสมอ เช่น งานพิธีไหว้ครู โครงการเชื่อมสัมพันธ์พี่น้องกายภาพบำบัด (Pink day) เป็นต้น นักกายภาพบำบัดที่มีคุณภาพ คู่คุณธรรม เพื่อประชาชน
“ทำให้เป็นคนติดดิน เข้าใจความทุกข์ของผู้อื่น เป็นส่วนที่มีอิทธิพลต่อตัวเองและครอบครัวให้ทำประโยชน์ต่อบุคคลอื่น ส่วนครอบครัวก็โน้มน้าวให้บุตรชายที่ชอบคอมพิวเตอร์ เข้าเรียนและสำเร็จการศึกษาจากคณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยมหิดล” ความภาคภูมิใจต่อมหาวิทยาลัยมหิดลจาก กภ.พงศ์พันธุ์ ตุลยกิจจา
#MahidolUniversityNotableAlumni
อ่านเรื่องราว
Health insurance reactivation policy innovator:
K.Trisnasari is a Primary Benefit Assurance Policy Officer at BPJS Kesehatan, with over seven years of professional experience. Her work focuses on expanding access to health services, particularly for informal sector participants of the National Health Insurance (NHI) who are often excluded due to unpaid contributions. Her research on compliance among this group was published in a Q2-ranked international journal and has become an important reference. Based on this work, she was invited by USAID to discuss strategic approaches to resolving contribution arrears. K. Trisnasari was also honored as a panelist at PMAC 2025, where she spoke on leveraging innovative technologies to strengthen health financing for UHC, alongside the World Health Organization (WHO), which had previously reviewed her paper on mobile JKN. Beyond academic and policy engagement, she works directly with communities to raise awareness about NHI benefits and assists individuals in reactivating their coverage when in arrears, ensuring that vulnerable populations can regain access to essential health services. By combining policy expertise with hands-on community impact, she exemplifies how strong policies must be grounded in real outcomes and empower communities.
“Being able to continue my studies at Mahidol University, which is the best university in Thailand and among the best in the world, was an honor. Mahidol University was founded legacy by Prince Mahidol, Thailand's Father of Modern Medicine and Public Health. It is renowned for its cutting-edge research and top-notch academic programs, especially in the field of science and health. Taking part at Mahidol let me realize the value of applying knowledge for human well-being and motivated me to develop my knowledge and character under the guidance of knowledgeable professors. It is equally important to learn from the local community and the Thai healthcare system, which is preserving the humble, friendly, and selfless Thai culture. With all those amazing things, I am proud to be Mahidol.” Proud to be Mahidol Alumni by K. Trisnasari.
#MahidolUniversityNotableAlumni
อ่านเรื่องราว
NCD Prevention Pioneer in East Kalimantan Timur :
Assistant Professor Dr. Purwo is actively involved in teaching, research, and community programs in public health. A key achievement is his leadership in a stunting prevention initiative across East Kalimantan, involving around 1,000 students and faculty members. He structured student participation by academic year, from training first-year students in public speaking to assigning final-year students to educate women of reproductive age. He also led research on stunting risk factors that helped shape local government policies. He regularly publishes studies using national secondary data, some of which support policies by the National Population and Family Planning Agency. Since 2018, he has guided numerous students who have gone on to become professionals in the public health field.
#MahidolUniversityNotableAlumni
อ่านเรื่องราว
Champion of gender-responsive public health :
Professor Dr. Fariha Haseen is a leading authority in reproductive health, gender equity, and adolescent well-being in Bangladesh. She serves as Professor and Head of the Division of Reproductive and Child Health, and Director of the Centre for Gender and Women’s Health Research at the Department of Public Health and Informatics of Bangladesh Medical University (BMU). Her teaching includes research ethics, gender, sexual and reproductive health (SRH), adolescent health (AH), and social medicine and behavioral sciences. Research portfolio spans gender-responsive health system and leadership, artificial intelligence, ASRH, child marriage in climate-vulnerable contexts, cervical cancer prevention, and HPV vaccine. She has secured competitive grants and published extensively in national and international forums. Her policy leadership includes co-authoring the Adolescent-Friendly Health Services Training Manual (DGFP, MOHFW, 2019), National Menstrual Hygiene Management Strategy (2018–2020), and National Adolescent Health Strategy 2017–2030. Professor Haseen is a member of the Institutional Review Board of BMU and JPGSPH of BRAC University, IGCS, IPVS, and Avoidable Death Network (ADN), Bangladesh Bioethics Society. She served in the National Immunization Technical Advisory Group (NITAG) of Bangladesh. She is widely recognized for mentoring emerging public health scholars and practitioners. Her career reflects an enduring commitment to equity-driven, evidence-based health innovation.
#MahidolUniversityNotableAlumni
อ่านเรื่องราว
มหาวิทยาลัยมหิดลมีนโยบายสร้างเสริมความผูกพันและรวมพลังศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัยมหิดล
เพื่อร่วมกันพัฒนามหาวิทยาลัยอย่างต่อเนื่อง โดยมีคณะ
กรรมการบริหารและดำเนินงานสร้างความผูกพันศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยมหิดล
999 อาคารศูนย์การเรียนรู้มหิดล ชั้น 3 กองกิจการนักศึกษา ม.มหิดล ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม 73170
999 อาคารสิริวัฒนภักดี ถ.พุทธมณฑลสาย 4 ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม 73170