โทรติดต่อ:
ศ.เกียรติคุณ ดร.พญ.
ศศิธร
ผู้กฤตยาคามี

ผู้นำการวิจัยโรคเขตร้อนเพื่อสุขภาพโลกอย่างยั่งยืน :

ศ.เกียรติคุณ ดร.พญ.ศศิธรได้ปฏิบัติหน้าที่แห่งวิชาชีพด้วยคุณธรรมและจริยธรรมอย่างต่อเนื่องมานานกว่าสามทศวรรษ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งราชบัณฑิตและหัวหน้าหน่วยวิจัยคลินิกบำบัด คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล ท่านได้ทำงานด้านบริการวิชาการด้วยมนุษยสัมพันธ์ที่ดีอย่างต่อเนื่องโดยเป็นอาจารย์พี่เลี้ยงเพื่อสร้างนักวิจัยรุ่นใหม่ด้านโรคเขตร้อนและวิทยาศาสตร์การแพทย์ ผลงานทางวิชาชีพที่โดดเด่นและการทุ่มเทเพื่องานบริการวิชาการแก่ส่วนรวมทำให้ท่านได้รับเกียรติคุณและการยกย่องทั้งในและต่างประเทศ ได้รับพระราชทานเหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา สาขาแพทยศาสตร์ ประจำปี พ.ศ. 2562 ท่านมีผลงานวิจัยระดับโลกที่โดดเด่นด้านการรักษาควบคุมและกำจัดโรคมาลาเรียและโรค COVID-19 การนำองค์ความรู้จากวงการแพทย์ไปประยุกต์ใช้จนเป็นที่ประจักษ์และได้รับการจัดอันดับเป็นนักวิทยาศาสตร์ 2% แรกของโลกและนักวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ดีที่สุดประจำปี พ.ศ. 2565 ลำดับที่ 16,453 ของโลกและลำดับที่ 9 ของประเทศไทย จึงนับเป็นต้นแบบศิษย์เก่าที่ประสบความสำเร็จในการทำคุณประโยชน์ต่อส่วนรวมและประเทศชาติ เป็นเกียรติยศและชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยมหิดล

“มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นมหาวิทยาลัยที่มีวัฒนธรรมที่ยั่งยืนงดงามและมีความเป็นเลิศด้านวิชาการในระดับสากล จวบจนปัจจุบันมหิดลยังคงรักษาเกียรติยศชื่อเสียงและได้รับการยอมรับทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ ข้าพเจ้ามีความภาคภูมิใจอย่างสูงสุดที่ได้รับการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมหิดลและได้รับราชการเฉพาะที่คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล เกียรติยศชื่อเสียงและความสำเร็จของข้าพเจ้าตลอดชีวิตการทำงาน กว่า 39 ปี ล้วนเป็นเพราะการหล่อหลอมจากครูบาอาจารย์และการได้รับโอกาสจากมหาวิทยาลัยมหิดล” ความภาคภูมิใจต่อมหาวิทยาลัยมหิดลจาก ศ.เกียรติคุณ ดร.พญ.ศศิธร ผู้กฤตยาคามี

#MahidolUniversityNotableAlumni

อ่านเรื่องราว

รศ.ภญ.
พร้อมจิต
ศรลัมพ์

ผู้นำวิชาการขับเคลื่อนสมุนไพรไทยสู่หลักวิทยาศาสตร์ :
รศ.ภญ.พร้อมจิตเป็นผู้มีผลงานอันโดดเด่นและเป็นที่ยอมรับในวงการสมุนไพรไทย ท่านเป็นกำลังสำคัญของประเทศในการพัฒนางานด้านสมุนไพรให้มีความก้าวหน้าในหลักวิทยาศาสตร์ อนุรักษ์และต่อยอดองค์ความรู้งานวิจัยและภูมิปัญญาไทยให้เห็นเป็นผลรูปธรรม ท่านเป็นผู้มีส่วนสำคัญในการผลักดันและสนับสนุนการทำงานเชิงบูรณาการข้ามศาสตร์และข้ามมหาวิทยาลัย ทำให้เกิดผลสำเร็จในการสร้างนวัตกรรมสมุนไพร ทำให้การศึกษาวิจัยพืชสมุนไพรไทยมีมาตรฐานมีทิศทางที่ชัดเจนสามารถตอบโจทย์ความต้องการของประเทศและสังคม นอกจากนั้นยังเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการยกระดับและวางรากฐานการบริหารจัดการสวนสมุนไพรสิรีรุกชาติไปเป็นอุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ เพื่อพัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้พืชสมุนไพรแบบครบวงจร เพื่อถ่ายทอดความรู้ให้ประชาชนได้ศึกษาและนำกลับไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เพิ่มศักยภาพในการพึ่งพาตัวเองด้านสุขภาพอนามัยให้กับสังคมไทย
“ช่วงระยะเวลา 54 ปี ซึ่งใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ นับตั้งแต่สอบคัดเลือกเข้าศึกษาในคณะเภสัชศาสตร์สำเร็จ คาดหวังว่าที่นี่จะเป็นพื้นที่ให้สามารถพัฒนาตนเองและสร้างชีวิตที่ดีในอนาคต เข้าร่วมกิจกรรมทั้งในและนอกหลักสูตรจนจบจนบรรจุเป็นอาจารย์ที่คณะฯ เป็นช่วงที่มีความภาคภูมิใจและมีความกระตือรือร้นที่่จะทำงานวิชาชีพที่ชอบ ปรับปรุงวิธีการเรียนการสอนให้เหมาะสมมากขึ้นตามความคิด ที่นี่เปิดโอกาสให้ได้เรียนรู้ สร้างประสบการณ์ใหม่ และประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีและสภาพสังคมไทยที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โจทย์วิชาชีพถูกศึกษา วิเคราะห์และสังเคราะห์ ทำให้มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น และใช้เวลาที่เหลือสร้างสรรค์งานต่าง ๆ ให้วิชาชีพและสังคมตามศักยภาพของตัวเอง อาจจะไม่โดดเด่นมาก แต่เป็นความภูมิใจของตัวเองที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสถาบันที่นับเป็นบ้านอีกแห่งหนึ่งของชีวิต” ความภาคภูมิใจต่อมหาวิทยาลัยมหิดลจาก รศ.ภญ.พร้อมจิต ศรลัมพ์
#MahidolUniversityNotableAlumni

อ่านเรื่องราว

กภ.
พงศ์พันธุ์
ตุลยกิจจา

นักกายภาพบำบัดผู้ให้ด้วยหัวใจเพื่อสังคมและวิชาชีพ :
กภ.พงศ์พันธุ์เป็นผู้ประพฤติปฏิบัติและครองตนอยู่ในคุณธรรมจริยธรรมมาโดยตลอด ท่านเคยปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่งที่ปรึกษารองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 คณะอนุกรรมาธิการการท่องเที่ยวและกีฬา คณะอนุกรรมาธิการผู้ใช้ลำแสงซินโครตรอน และเป็นกรรมการผู้จัดการในองค์กรภาคเอกชนหลายแห่ง อีกทั้งมีจิตอาสาช่วยเหลือสังคมและช่วยเหลือวิชาชีพกายภาพบำบัด เป็นตัวอย่างที่ดีในการเป็นผู้ให้ เช่น การมอบทุนการศึกษา ให้รางวัล และคำปรึกษาแก่คณาจารย์และน้อง ๆ นักศึกษาคณะกายภาพบำบัด ด้วยจิตเมตตา อีกทั้งท่านยังเป็นอดีตนายกสมาคมศิษย์เก่าคณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดลที่มีความเชี่ยวชาญในงานที่รับผิดชอบ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีความมุ่งมั่นพัฒนางานอย่างต่อเนื่องในการผลักดันให้ทางสมาคมฯ ดำเนินงานได้สมบูรณ์แบบอย่างเป็นทางการ ผ่านการทำโครงการสนับสนุนสมาคมฯ ที่ส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรมนักศึกษาและศิษย์เก่าทุกรุ่น พลิกโฉมสมาคมฯ ให้เป็นที่รู้จักของศิษย์เก่ารุ่นต่าง ๆ มากขึ้น อีกทั้งยังสละเวลาเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของทางคณะฯ อย่างสม่ำเสมอ เช่น งานพิธีไหว้ครู โครงการเชื่อมสัมพันธ์พี่น้องกายภาพบำบัด (Pink day) เป็นต้น นักกายภาพบำบัดที่มีคุณภาพ คู่คุณธรรม เพื่อประชาชน
“ทำให้เป็นคนติดดิน เข้าใจความทุกข์ของผู้อื่น เป็นส่วนที่มีอิทธิพลต่อตัวเองและครอบครัวให้ทำประโยชน์ต่อบุคคลอื่น ส่วนครอบครัวก็โน้มน้าวให้บุตรชายที่ชอบคอมพิวเตอร์ เข้าเรียนและสำเร็จการศึกษาจากคณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยมหิดล” ความภาคภูมิใจต่อมหาวิทยาลัยมหิดลจาก กภ.พงศ์พันธุ์ ตุลยกิจจา
#MahidolUniversityNotableAlumni

อ่านเรื่องราว

K.
TRISNASARI
.

Health insurance reactivation policy innovator:
K.Trisnasari is a Primary Benefit Assurance Policy Officer at BPJS Kesehatan, with over seven years of professional experience. Her work focuses on expanding access to health services, particularly for informal sector participants of the National Health Insurance (NHI) who are often excluded due to unpaid contributions. Her research on compliance among this group was published in a Q2-ranked international journal and has become an important reference. Based on this work, she was invited by USAID to discuss strategic approaches to resolving contribution arrears. K. Trisnasari was also honored as a panelist at PMAC 2025, where she spoke on leveraging innovative technologies to strengthen health financing for UHC, alongside the World Health Organization (WHO), which had previously reviewed her paper on mobile JKN. Beyond academic and policy engagement, she works directly with communities to raise awareness about NHI benefits and assists individuals in reactivating their coverage when in arrears, ensuring that vulnerable populations can regain access to essential health services. By combining policy expertise with hands-on community impact, she exemplifies how strong policies must be grounded in real outcomes and empower communities.

“Being able to continue my studies at Mahidol University, which is the best university in Thailand and among the best in the world, was an honor. Mahidol University was founded legacy by Prince Mahidol, Thailand's Father of Modern Medicine and Public Health. It is renowned for its cutting-edge research and top-notch academic programs, especially in the field of science and health. Taking part at Mahidol let me realize the value of applying knowledge for human well-being and motivated me to develop my knowledge and character under the guidance of knowledgeable professors. It is equally important to learn from the local community and the Thai healthcare system, which is preserving the humble, friendly, and selfless Thai culture. With all those amazing things, I am proud to be Mahidol.” Proud to be Mahidol Alumni by K. Trisnasari.
#MahidolUniversityNotableAlumni

อ่านเรื่องราว

Asst.Prof. Dr.
Purwo Setiyo
Nugroho

NCD Prevention Pioneer in East Kalimantan Timur :
Assistant Professor Dr. Purwo is actively involved in teaching, research, and community programs in public health. A key achievement is his leadership in a stunting prevention initiative across East Kalimantan, involving around 1,000 students and faculty members. He structured student participation by academic year, from training first-year students in public speaking to assigning final-year students to educate women of reproductive age. He also led research on stunting risk factors that helped shape local government policies. He regularly publishes studies using national secondary data, some of which support policies by the National Population and Family Planning Agency. Since 2018, he has guided numerous students who have gone on to become professionals in the public health field.
#MahidolUniversityNotableAlumni

อ่านเรื่องราว

Prof. Dr.
Fariha
Haseen

Champion of gender-responsive public health :
Professor Dr. Fariha Haseen is a leading authority in reproductive health, gender equity, and adolescent well-being in Bangladesh. She serves as Professor and Head of the Division of Reproductive and Child Health, and Director of the Centre for Gender and Women’s Health Research at the Department of Public Health and Informatics of Bangladesh Medical University (BMU). Her teaching includes research ethics, gender, sexual and reproductive health (SRH), adolescent health (AH), and social medicine and behavioral sciences. Research portfolio spans gender-responsive health system and leadership, artificial intelligence, ASRH, child marriage in climate-vulnerable contexts, cervical cancer prevention, and HPV vaccine. She has secured competitive grants and published extensively in national and international forums. Her policy leadership includes co-authoring the Adolescent-Friendly Health Services Training Manual (DGFP, MOHFW, 2019), National Menstrual Hygiene Management Strategy (2018–2020), and National Adolescent Health Strategy 2017–2030. Professor Haseen is a member of the Institutional Review Board of BMU and JPGSPH of BRAC University, IGCS, IPVS, and Avoidable Death Network (ADN), Bangladesh Bioethics Society. She served in the National Immunization Technical Advisory Group (NITAG) of Bangladesh. She is widely recognized for mentoring emerging public health scholars and practitioners. Her career reflects an enduring commitment to equity-driven, evidence-based health innovation.
#MahidolUniversityNotableAlumni

อ่านเรื่องราว

รศ.ดร.
แสงทอง
ธีระทองคำ

ผู้นำการพัฒนาวิชาชีพการพยาบาล :
รศ.ดร.แสงทองเป็นผู้นำในการพัฒนาวิชาชีพการพยาบาลและมีจิตวิญญาณความเป็นครูที่ถ่ายทอดความรู้ทางการพยาบาลอย่างเต็มกำลัง รวมทั้งปฏิบัติงานร่วมกับสภาการพยาบาลเพื่อพัฒนาความก้าวหน้าของพยาบาล โดยเฉพาะการผลักดันผู้ปฏิบัติการพยาบาลขั้นสูง สาขาการพยาบาลเวชปฏิบัติชุมชน ตลอดจนพัฒนาและเผยแพร่ความรู้ข้ามศาสตร์ทั้งกฎหมายวิชาการพยาบาลและการผดุงครรภ์ การรักษาโรคเบื้องต้นและการใช้ยาอย่างสมเหตุผล ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อวิชาชีพการพยาบาลและประชาชน ท่านยังร่วมพัฒนาหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิตและมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาลเวชปฏิบัติชุมชน หลักสูตรฝึกอบรมพยาบาลขั้นสูงระดับวุฒิบัตร สาขาการพยาบาลเวชปฏิบัติชุมชน โรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี ซึ่งเปิดหลักสูตรเป็นแห่งแรกของประเทศไทย พร้อมทั้งได้รับมอบหมายให้เป็นประธานหลักสูตร ฯ จวบจนปัจจุบัน ผลงานที่น่าภาคภูมิใจล่าสุดคือการเป็นที่ปรึกษาให้ผู้เชี่ยวชาญในการวางแผนดำเนินการและประเมินการฝึกทักษะทางการพยาบาลให้กับผู้แทนเยาวชนในวันหยุดราชการเพื่อร่วมแข่งขันฝีมือแรงงาน “WorldSkills Lyon 2024” สาขาการดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วย (Health and Social Care) จนเกิดสมรรถนะทางการพยาบาลที่สามารถแก้ปัญหาสถานการณ์ทางการพยาบาลได้อย่างมีมาตรฐาน มีประสิทธิภาพและคำนึงถึงสิทธิผู้ป่วย ส่งผลให้ผู้แทนคือคุณอริยพร ลิ้มกมลทิพย์ ที่ได้เข้าร่วมแข่งขันได้รับรางวัลเหรียญทอง และ รางวัล Best of Nation ณ เมืองลียง สาธารณรัฐฝรั่งเศส
“มหิดล ไม่เพียงแต่ให้ความรู้ ยังหล่อหลอมความกล้าคิดอย่างมีวิจารณญาณ กล้าแสดงออก สร้างแรงบันดาลใจ บ่มเพาะจิตวิญญาณความเป็นครู ความสามารถในการประยุกต์ความรู้และทักษะทางการพยาบาล เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม’” ความภาคภูมิใจต่อมหาวิทยาลัยมหิดลจาก รศ.ดร.แสงทอง ธีระทองคำ

#MahidolUniversityNotableAlumni

อ่านเรื่องราว

ศ.ดร.
สุภา
เพ่งพิศ

ผู้สร้างเครือข่ายวิชาการระดับนานาชาติ :
ศาสตราจารย์ ดร.สุภา เป็นนักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิที่มีผลงานโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์ในวงการสาธารณสุข ทั้งในระดับชาติและระดับนานาชาติ โดยท่านได้ประยุกต์ใช้ความรู้ทางสาธารณสุขศาสตร์ที่พิสูจน์ได้ตามหลักวิชาการ ในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาด้านสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในด้านการส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค ที่สร้างประโยชน์อย่างกว้างขวางต่อประชาชนทุกกลุ่มวัยมีบทบาทสำคัญในการสร้างเครือข่ายวิชาการระดับนานาชาติ ส่งเสริมความร่วมมือด้านการวิจัยกับนักวิชาการทั่วโลก พร้อมทั้งมีส่วนในการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรทางการแพทย์ นักวิชาการ และนักวิจัย ด้วยการจัดการอบรม การให้คำปรึกษาด้านการทำวิจัย และการสนับสนุนการเผยแพร่ผลงานวิจัยในระดับสากล ซึ่งก่อให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก และช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทยในเวทีวิชาการนานาชาติ ยังอุทิศตนในการพัฒนานักวิจัยรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยใช้เวลาส่วนตัวในการสอน แนะนำ และสนับสนุนงานวิจัยของนักศึกษา ตลอดจนใช้ทุนส่วนตัวเพื่อสนับสนุนโอกาสในการศึกษาค้นคว้าและการเผยแพร่ผลงานของนักศึกษาและนักวิจัยรุ่นใหม่ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและความรู้ความสามารถอย่างแท้จริง ด้วยคุณูปการอันโดดเด่นและความเสียสละอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาวงการสาธารณสุขไทยและนานาชาติ ทำให้ท่านได้รับรางวัล Mahidol University’s Researcher of The Year 2025 ด้าน High Impact Researcher in Health Science
“การได้เป็นศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัยมหิดลนับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง เพราะมหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นองค์กรที่มีเกียรติและได้รับการยอมรับในระดับสากล เราได้รับการศึกษาในระบบที่ดี มีคุณภาพ และได้รับการปลูกฝังทั้งความรู้ ความสามารถ และทักษะที่ทำให้สามารถทำงานร่วมกับนักวิชาการระดับโลกได้อย่างมั่นใจ มหาวิทยาลัยมหิดลยังสนับสนุนและผลักดันการพัฒนาในทุกมิติ พร้อมทั้งปลูกฝังให้เรามีจิตบริการ และทำงานเพื่อผู้อื่น ภายใต้คติ “ปัญญาของแผ่นดิน” และการดำเนินชีวิตในวิถี “ลูกพระบิดา” ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญที่หล่อหลอมให้เราเติบโตเป็นคนดีของสังคมความภาค ภูมิใจนี้ยิ่งทวีคูณเมื่อได้กลับมาทำงานในมหาวิทยาลัยที่เคยเรียน สานต่อภารกิจเพื่อพัฒนา สร้างสรรค์ และส่งต่อองค์ความรู้และประสบการณ์ให้กับคนรุ่นหลัง เพื่อสร้างทายาททางวิชาการที่มีคุณภาพต่อไป” ความภาคภูมิใจต่อมหาวิทยาลัยมหิดลจาก ศ.ดร.สุภา เพ่งพิศ

#MahidolUniversityNotableAlumni

อ่านเรื่องราว

คุณ
ภูธเนศ
รู้เกณฑ์

คนรุ่นใหม่เสริมสร้างสุขภาพจิตของคนไทยให้ยั่งยืน:
ในสังคมไทยปัจจุบัน ประเด็นสุขภาพจิตได้รับความสำคัญมากขึ้น บริการด้านนี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะผู้ที่มีอาการป่วย แต่เปิดกว้างสำหรับทุกคนที่ต้องการคำปรึกษาและการดูแลจิตใจ เห็นได้จากช่องทางต่าง ๆ เช่น สายด่วนสุขภาพจิต 1323 และแพลตฟอร์มให้คำปรึกษาจากทั้งภาครัฐและเอกชน เส้นทางของคุณภูธเนศในงานสุขภาพจิตเริ่มต้นตั้งแต่สมัยเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล ผ่านการเข้าร่วมเครือข่าย MU Friend ซึ่งทำหน้าที่ดูแลและรับฟังเพื่อนนักศึกษา ประสบการณ์ครั้งนั้นกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เลือกเดินบนเส้นทางอาชีพด้านสุขภาพจิต และต่อมาทำงานที่กรมสุขภาพจิต ซึ่งเป็นองค์กรหลักในการดูแลและพัฒนาระบบสุขภาพจิตของคนไทยทั้งประเทศ ภายใต้ภารกิจนี้เขามีบทบาททั้งในการสนับสนุนการดำเนินงานของผู้บริหารเพื่อขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์ด้านสุขภาพจิตในภาพรวมระดับประเทศให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงในหลายครั้ง ข้าพเจ้าได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อให้การดำเนินงานสามารถตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนได้อย่างทันท่วงที หนึ่งในภารกิจสำคัญของกรมสุขภาพจิตคือการดำเนินงานของทีม MCATT (Mental Health Crisis Assessment and Treatment Team) หรือ “ทีมเยียวยาจิตใจ” ที่ช่วยเหลือผู้ประสบเหตุวิกฤต เช่น อุบัติเหตุร้ายแรง ภัยพิบัติ และเหตุการณ์ความรุนแรงต่าง ๆ นอกเหนือจากงานในทีม MCATT ได้มีส่วนร่วมในภารกิจสำคัญของกรมสุขภาพจิต เช่น การผลักดันพระราชบัญญัติสุขภาพจิต การส่งเสริมการเข้าถึงยาทางจิตเวช และการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในสังคมเกี่ยวกับสุขภาพจิต เพื่อลดอคติและส่งเสริมความเข้าใจที่ถูกต้อง แม้บทบาทจะเป็นเพียงฟันเฟืองเล็ก ๆ แต่เปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนในการเสริมสร้างสุขภาพจิตของคนไทย และเชื่อว่าพลังจากการทำงานร่วมกันจะนำพาสังคมไทยไปสู่ความเข้มแข็งทางใจอย่างยั่งยืน
#MahidolUniversityNotableAlumni

อ่านเรื่องราว

คุณ
เอกพงษ์
ปานสุวรรณ

นวัตกรรมบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมสุขภาพ :
คุณเอกพงษ์เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมและเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมในการพัฒนาระบบบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมสุขภาพ มีประสบการณ์ในการพัฒนาระบบให้กับอุตสาหกรรมสุขภาพและอุตสาหกรรมการผลิต (โรงงานผลิต) เป็นผู้นำในการวางระบบ Enterprise Resource Planning (ERP) และ SAP ใน module MM, WMS และ TMS สำหรับคลังสินค้าและการขนส่ง โดยออกแบบระบบจัดเก็บสินค้า (Fix BIN / Random BIN) ตามลักษณะการเคลื่อนไหวของสินค้า ส่งผลให้สามารถจัดส่งสินค้าได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว ในด้านอุตสาหกรรมรักษาพยาบาล (โรงพยาบาล) ออกแบบและวางระบบ ERP แบบรวมศูนย์ (Centralized) ครอบคลุมระบบบัญชี จัดซื้อ และไอที พร้อมทั้งพัฒนาระบบบริหารจัดการยา (Closed Loop Medication Management System: CLMMS) ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐาน HIMSS Analytics Stage 6 ช่วยยกระดับคุณภาพการดูแลรักษาและความปลอดภัยของผู้ป่วย และด้านอุตสาหกรรมขายปลีก(ร้านขายยา) รับผิดชอบฝ่ายปฏิบัติการเครือร้านขายยา 104 สาขา ทั่วประเทศ ในการนำการเปลี่ยนแปลงระบบงานหน้าบ้าน (งานขาย POS) และนำระบบ ERP (People soft) มาจัดการระบบงานหลังบ้านแบบศูนย์กลาง (Centralize) ได้แก่ระบบงานการจัดการสินค้าคงคลัง, ระบบงานจัดซื้อ ระบบงานขนส่ง และศูนย์กระจายสินค้า ส่งผลให้สามารถบริหารจัดการระบบงานห่วงโซ่อุปทาน (Supply chain) ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ให้กับร้านขายยาเครือข่ายที่อยู่ทั่วประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยผลงานโดดเด่นในการออกแบบและพัฒนาระบบ ERP ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทั้งโรงงานผลิต โรงพยาบาลและร้านขายยา ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะการออกแบบแนวคิดการรวมศูนย์จัดซื้อ (Central Procurement) ที่มุ่งเน้นการเชื่อมโยงข้อมูลของธุรกิจลักษณะเครือข่ายเข้ากับระบบ ERP ผ่าน API ที่ปลอดภัยตามมาตรฐานสากล พร้อมใช้การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) และ AI ในการเชื่อมโยงข้อมูลอย่างราบรื่นและปลอดภัย ช่วยลดต้นทุน เพิ่มความโปร่งใส และช่วยลดภาระงานของบุคลากรทางการแพทย์ สามารถเพิ่มเวลาในการดูแลผู้ป่วยโดยตรง นอกจากนี้ยังนำแนวคิด Environment, Social และ Governance (ESG) มาปรับใช้ในการบริการจัดการห่วงโซ่อุปทานเพื่อการพัฒนาระบบที่ยั่งยืน ผลงานเหล่านี้ไม่เพียงแต่แสดงถึงความเชี่ยวชาญในวิชาชีพ แต่สะท้อนถึงคุณค่าที่สอดคล้องกับปณิธานของมหาวิทยาลัยมหิดลในการอุทิศตนเพื่อประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์ และช่วยยกระดับคุณภาพการดูแลผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างแบบอย่างในการพัฒนาอุตสาหกรรมสุขภาพอย่างยั่งยืน
#MahidolUniversityNotableAlumni

อ่านเรื่องราว